หุ้น MINT - ราคา, ข่าวหุุ้น แนวโน้มหุ้น และความคุ้มค่าในการลงทุน

หุ้น MINT หรือหุ้นบริษัทไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีหลากหลายธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และแบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์ ดูแลโรงแรมมากกว่า 520 ใน 56 ประเทศทั่วโลก ร้านอาหารกว่า 2,300 ร้านใน 23 ประเทศ และแบรนด์ไลฟ์สไตล์อีกจำนวนมาก แม้ผลประกอบการของบริษัทในช่วงที่ผ่านมา จะตกลง สืบเนื่องมาจากการระบาดของโควิด 19 แต่นักลงทุน และนักวิเคราะห์มีความเชื่อมั่นว่าธุรกิจของหุ้น MINT จะฟื้นตัวภายในปลายปีนี้อย่างแน่นอน

หุ้น MINT คือ หุ้นของบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นบริษัทข้ามชาติที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ธุรกิจหลักสามธุรกิจของไมเนอร์ ได้แก่ ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และแบรนด์ไลฟ์สไตล์ ซึ่งดำเนินการภายใต้บริษัทในเครือไมเนอร์ โฮเทลส์ ไมเนอร์ ฟู้ด และไมเนอร์ ไลฟ์สไตล์ ตามลำดับ

ไมเนอร์ โฮเทลส์เป็นเจ้าของโรงแรม ผู้ประกอบการ และนักลงทุน ด้วยพอร์ตโฟลิโอมากกว่า 75,000 ห้องในโรงแรม รีสอร์ท และเซอร์วิสสวีทมากกว่า 520 แห่งภายใต้อนันตรา อวานี โอ๊คส์ ทิโวลี เอเลวานา NH Collection NH Hotel nhow Marriott, Four แบรนด์ Seasons, St. Regis, Radisson Blu และ Minor International ปัจจุบัน กลุ่มโรงแรมและสปาของไมเนอร์ โฮเทลส์ครอบคลุม 56 ประเทศในเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง แอฟริกา มหาสมุทรอินเดีย ยุโรป และอเมริกา

ส่วนกลุ่มไมเนอร์ ฟู้ด เป็นหนึ่งในบริษัทร้านอาหารและร้านอาหารที่ให้บริการด่วนที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย โดยมีสาขามากกว่า 2,300 แห่งใน 23 ประเทศภายใต้ชื่อ The Pizza Company, The Coffee Club, Riverside, Thai Express, Benihana, Bonchon, Swensen's, Sizzler, Dairy Queen และ Burger King

ขณะที่กลุ่มไมเนอร์ ไลฟ์สไตล์ เป็นหนึ่งในผู้จัดจำหน่ายแบรนด์ไลฟ์สไตล์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย โดยมีจุดขายมากกว่า 440 จุด โดยเน้นที่สินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์เป็นหลัก แบรนด์ของบริษัท ได้แก่ Anello, BergHOFF, Bodum, Bossini, Charles & Keith, Esprit, Joseph Joseph, Radley, Scomadi, Zwilling J.A., Henckels และ Minor Smart Kids

โดยรวมแล้ว บริษัทมีพื้นฐานที่ไม่ดีสำหรับกลยุทธ์การลงทุนระยะกลางถึงระยะยาวตาม Refinitiv คะแนน ESG ของบริษัทสำหรับอุตสาหกรรมนั้นดี

จุดแข็งของหุ้น MINT

จุดอ่อนของหุ้น MINT

จากข้อมูลเครื่องมือวิเคราะห์เชิงเทคนิค แบบรายวัน จากเว็บไซต์ Trading View เมื่อวันที่ 21 พ.ย. โดยใช้อินดิเคเตอร์ที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุน คือ อินดิเคเตอร์ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) ชี้ว่า “ขาย” เช่นเดียวกับอินดิเคเตอร์ออสซิลเลเตอร์ สรุปให้ “ขาย” เว็บไซต์ Trading View  จึงสรุปผลการวิเคราะห์เชิงเทคนิคหุ้น MINT เป็น “ขาย” หรือ “SELL” นั่นเอง

ด้านข้อมูลจากอินดิเคเตอร์ จากเว็บไซต์ Investing เมื่อวันที่ 21 พ.ย. ชี้ว่าผลการวิเคราะห์เชิงเทคนิค สรุปให้เป็น “STRONG SELL” หรือ “แนะนำให้ขาย” เนื่องจากเทคนิคัล อินดิเคเตอร์สรุปให้ผลเป็น “STRONG SELL” หรือ “แนะนำให้ขาย” ขณะที่อินดิเคเตอร์ค่าเฉลี่ยแบบเคลื่อนที่ (Moving Averages) สรุปให้เป็น “SELL” หรือ “ขาย” เว็บไซต์ Investing จึงสรุปผลการวิเคราะห์เชิงเทคนิคหุ้น MINT โดยรวมเป็น “STRONG SELL” หรือ “แนะนำให้ขาย” นั่นเอง

รายงานการฟื้นตัวของการดำเนินงานในเชิงบวกทั้งแบบปีต่อปี และไตรมาสต่อไตรมาส ในไตรมาส 3 ของปี 2564 โดยหุ้น MINT มีรายได้หลัก 19,745 บาท ล้านบาทในไตรมาสนี้ เพิ่มขึ้น 33% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ประสิทธิภาพที่ดีกว่า คือ โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรมเป็นหลัก ในยุโรปและมัลดีฟส์แม้จะมีความท้าทายในการดำเนินงาน สภาพแวดล้อมของกลุ่มไมเนอร์ ฟู้ด และไมเนอร์ ไลฟ์สไตล์ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ที่เข้มงวดกำหนดไว้สำหรับร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า และสถานบันเทิง ร้านค้าในเมืองโซนสีแดงเข้ม สำหรับตัวเลข EBITDA ในไตรมาส 3/2564 เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าเมื่อเทียบแบบปีต่อปี เป็น 4,337 ล้านบาท ส่วนที่เพิ่มขึ้นอย่างมากของโรงแรมในยุโรปและธุรกิจ timeshare จากที่แข็งแกร่ง ดีดตัวขึ้นในอุปสงค์และลดต้นทุนอย่างต่อเนื่องจากผลข้างต้น การสูญเสียแกนกลางลดลงครึ่งหนึ่งจาก 4,783 ล้านบาทในไตรมาส 3 ปี 2563 เป็นขาดทุนหลัก 2,366 บาทล้านบาทในไตรมาสที่ 3 ของปี 2564

ข้อมูลจากเว็บไซต์ Wallet Investor ระบุว่าแนวโน้ม/คาดการณ์ราคาหุ้น MINT แบบระยะสั้น ในอนาคต จะมีแนวโน้มตกลง ตามตารางด้านบน โดยราคาปัจจุบันของหุ้น MINT ณ วันที่ 21 พ.ย. 2564 อยู่ที่ 32.75 บาท และคาดว่าราคาอาจหล่นจาก 32.750 บาท ไปอยู่ที่ 29.710 บาท ซึ่งคิดเป็น -9.282 เปอร์เซ็นต์ของอัตราการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้น โดย Wallet Investor มองว่าหุ้น MINT ไม่น่าจะเพิ่มสูงมากขึ้นกว่านี้ภายใน 1 ปี และคาดการณ์ว่าราคาของหุ้น MINT จะไม่ขึ้นถึง 100 บาท ภายใน 1 ปีนี้

แม้ว่าแนวโน้มคาดการณ์หุ้นจากหลายเว็บไซต์การเงิน และการลงทุน ไปจนถึงผลการวิเคราะห์เชิงเทคนิคของอินดิเคเตอรส์ จะชี้ไปในแนวทางเดียวกัน คือ แนะนำให้ขาย หรือ “SELL” หุ้น MINT เนื่องจากมีการทำกำไรต่ำ อันสืบเนื่องมาจากผลกระทบของโควิด เนื่องจากธุรกิจของหุ้น MINT หรือบริษัทไมเนอร์ ส่วนใหญ่ คือธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และแบรนด์ไลฟสไตล์ ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลก โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรม และร้านอาหาร

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางสถาบัน มองว่า สถานการณ์โควิดที่ค่อยๆ คลี่คลายลงในหลายประเทศ จะทำให้หุ้น MINT ค่อยๆ ฟื้นตัวมากขึ้นในไตรมาส 4 ของปี 2564 และปีหน้า เนื่องจากการท่องเที่ยว และการโรงแรมกำลังค่อยๆ ฟื้นตัวในหลายๆ ประเทศ โดยเฉพาะในทวีปยุโรป ซึ่งคิดเป็น 60 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ของบริษัท

 เช่นเดียวกับมาตรการล็อคดาวน์ที่มีการผ่อนคลายทั่วโลก ทำให้ร้านอาหารเริ่มกลับมาเปิดให้บริการแบบนั่งภายในร้านได้มากขึ้น ก็ส่งผลต่อผลประกอบการจากธุรกิจร้านอาหารของบริษัทไมเนอร์ เช่นกัน นอกจากนี้ บริษัทไมเนอร์ ยังได้ขายกิจการโรงแรม 2 โรงแรมในประเทศลิทัวเนีย ทำให้บริษัทมีรายได้เข้ามาอีกประมาณ 1 พันล้านบาท จากสถานการณ์ที่ดีขึ้นนี้ ทำให้นักลงทุน และนักวิเคราะห์หลายฝ่ายค่อนข้างมีความมั่นใจว่า หุ้น MINT จะมีผลประกอบการดีขึ้น และมีราคาสูงขึ้นในไตรมาส 4/2564 นี้นั่นเอง

เว็บไซต์การเงิน และการลงทุน รวมถึงผลการวิเคราะห์เชิงเทคนิคของอินดิเคเตอรส์ จะออกไปในแนวทางเดียวกัน คือ แนะนำให้ขาย หรือ “SELL” หุ้น MINT ของบริษัทไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ในช่วงปีที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ด้วยธุรกิจของกลุ่มไมเนอร์ ส่วนใหญ่ คือธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และแบรนด์ไลฟสไตล์ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดโดยตรง

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ และนักลงทุนหลายฝ่าย แสดงท่าทีเป็นบวกต่อผลประกอบการในไตรมาสล่าสุด และผลประกอบการปลายปี เนื่องจากการคลายมาตรการล็อคดาวน์ในหลายประเทศแถบยุโรป ส่งผลให้การท่องเที่ยว ธุรกิจโรงแรม และอาหาร เริ่มกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง เนื่องจากผู้คนได้รับอนุญาตให้เดินทาง และรับประทานภายในร้าน  นอกจากนี้ ในช่วงสี่เดือนที่ผ่านมา ราคาเฉลี่ยของหุ้นยังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ทำให้น่าจับตามองว่าหุ้น MINT จะกลับมาโดดเด่น และโลดแล่นในตลาดหลักทรัพย์อีกครั้ง

             การซื้อหุ้น MINT สามารถทำได้ผ่านการติดต่อซื้อจากโบรกเกอร์ที่นักลงทุนเป็นสมาชิกอยู่ ส่วนในกรณีที่นักลงทุนยังไม่มีแพลตฟอร์มโบรกเกอร์เป็นของตัวเอง เราแนะนำให้คุณเข้าไปศึกษาแพลตฟอร์มโบรกเกอร์ที่คุณจะสามารถซื้อหุ้น MINT ด้วยได้ ซึ่งโบรกเกอร์แต่ละเจ้าอาจจะมีเงื่อนไข หรือสิทธิพิเศษต่างๆ แตกต่างกันออกมา โดยควรเลือกโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือด้วย

             หุ้น MINT เป็นหนึ่งในหุ้นของดัชนี SET 50 หรือดัชนีหุ้นที่ดีที่สุด 50 อันดับแรกของตลาดหลักทรัพย์ไทย คุณจึงสามารถซื้อหุ้น MINT ได้แบบแยกเพียงหุ้นเดียว หรืออาจจะซื้อผ่านการลงทุนกับดัชนี SET 50 ก็ได้เช่นเดียวกัน สิ่งสำคัญ คือ คุณต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับหุ้น MINT ให้ละเอียด ก่อนการตัดสินใจ เช่น สำรวจผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมา ทั้งระยะสั้น และระยะยาว ข่าวคราวความเคลื่อนไหวของกิจการในเครือ สถานการณ์ต่างๆ รอบโลกที่จะมีผลต่อธุรกิจของบริษัท

             เมื่อตัดสินใจได้แล้ว คุณอาจสอบถามข้อมูลโดยตรงจากโบรกเกอร์ที่คุณเป็นลูกค้า ว่าจะสามารถซื้อหุ้นอย่างไรได้บ้าง และคุณอาจสามารถซื้อโดยการขอใบจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของหุ้น MINT ซึ่งคุณจะต้องคอยติดตามข่าวสารเป็นระยะๆ กระบวนการนี้ สามารถทำได้ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของโบรกเกอร์ที่คุณเป็นสมาชิกอยู่