อยากจะเพิ่มทอง ครึ่งสลึง เป็น 1 สลึง จะต้องเพิ่มเงินอย่างไร?
ทองคำครึ่งสลึง เป็นน้ำหนักที่คนไทยกำลังนิยมซื้อกัน แต่เมื่อเวลาผ่านไป ก็อยากที่จะเพิ่มทอง ครึ่งสลึง เป็น 1 สลึง ก็จะมีคำถามตามมาว่า ทองจะเพิ่มทองจากครึ่งสลึงให้เป็น 1 สลึงเต็ม ๆ จะต้องทำอย่างไรบ้าง และต้องจ่ายเงินเพื่ออีกเท่าไหร่
เนื่องจากคนไทยบางคนนิยมสะสมทองคำทีละเล็กละน้อยแทนการเก็บเงินสด เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ อีกทั้งคนไทยเป็นคนที่ชอบสวมเครื่องประดับเพื่อความสวยงาม จึงมักจะซื้อทองรูปพรรณกันซะส่วนใหญ่ เราจะมีดูกันว่า หากต้องการเพิ่มน้ำหนักของทองคำ เราจำเป็นที่จะต้องเพิ่มเงินอีกมากน้อยแค่ไหน
การเพิ่มทองครึ่งสลึงเป็น 1 สลึง คืออะไร
สำหรับใครที่เข้ามาหาข้อมูลเรื่องนี้เฉย ๆ โดยไม่เข้าใจวิธีการเพิ่มน้ำหนักทองคำ ก่อนอื่นเราจะต้องเข้าใจเรื่องของน้ำหนักทองคำกันเสียก่อน น้ำหนักชั่งตวงน้ำหนักของไทย เท่าที่รู้กันดีก็คือ น้ำหนักของทองคำมักจะเรียกเป็นบาท ทอง 1 บาท เท่ากับ 4 สลึง หากคิดถึงทองหนึกครึ่งสลึง ก็หมายถึงจะต้องรวมกันได้ 8 ชิ้น ถึงจะได้ 1 บาท
ในส่วนของราคา เราจะเริ่มคำนวณจากราคาทอง 1 บาท เป็นหลัก หากทอง 1 บาทราคา 20,000 บาทและอยากจะรู้ว่า ครึ่งสลึง จะราคาเท่าไหร่ ก็จะนำ 20,000 มาหารด้วย 8 ก็จะเท่ากับ 2,500 บาท นั่นเอง แต่นี่เป็นราคาที่ยังไม่ได้รวมค่ากำเหน็จและค่าบล็อก
ค่ากำเหน็จสำหรับทองรูปพรรณจะเริ่มต้นอยู่ที่ 300-800 บาทต่อทอง 1 บาท หมายความว่าหากทองครึ่งสลึงราคา 2,500 บาท รวมค่ากำเหน็จเข้าไปอีกก็จะเท่ากับ 2,800 ถึง 3,300 บาท นั่นเอง
การจะรู้ราคาเมื่อเพิ่มน้ำหนักทองคำนั้น เราจะต้องรู้ราคารับซื้อด้วย สำหรับทอง 1 บาทที่เคยซื้อมาราคา 20,000 บาท หลังจากนั้นเราต้องการที่จะขาย โดยราคาทองของวันนั้นอยู่ที่ 19,900 บาทต่อ 1 บาท ยึดหลักตามสมาคม ราคารับซื้อก็จะอยู่ที่บาทละ 18,905 บาท หากคิดเป็นครึ่งสลึงก็จะเท่ากับ 18,905 หาร 8 เท่ากับ 2,363 บาท
หากจะเพิ่มทอง ครึ่งสลึง เป็น 1 สลึง จะต้องเพิ่มเงินเท่าไหร่?
การเปลี่ยนรูปแบบของทองคำได้ เช่น แหวน เปลี่ยนเป็นสร้อย จะมีการคิดคำนวณตามสูตรนี้คือ ราคาขายทองครึ่งสลึง - ราคารับซื้อ จะเท่ากับ จำนวนเงินที่ต้องเพิ่ม เช่น ราคาขายทองครึ่งสลึง(3,300) – ราคารับซื้อทองครึ่งสลึง (2,363) = 937 บาท ดังนั้น เราจะต้องเพิ่มเงิน 937 เพื่อที่จะเปลี่ยนแหวนครึ่งสลึงเป็นสร้อยคอครึ่งสลึง
ต่อมาหาเราอยากเพิ่มน้ำหนักของทองคำ โดยจากแหวนทอง ครึ่งสลึง เพิ่มเป็นแหวนทอง 1 สลึง ก็จะมีวิธีคำนวณคล้าย ๆ กัน คือ ราคาขายทองคำ 1 สลึง – ราคารับซื้อทองครึ่งสลึง ยกตัวอย่างเช่น ทอง 1 บาท ขายราคา 20,000 บาท ทอง 1 บาทเท่ากับ 4 สลึง เมื่อเอา 4 หารแล้วจะได้ราคา 1 สลึง เท่ากับ 6,000 บาท เมื่อต้องการคำนวณการเพิ่มราคาของทองครึ่งสลึงเป็น 1 สลึงจะคำนวณจาก 6,000 – 2,363 = 3,637 บาท
ดังนั้นทองคำ ครึ่งสลึง ที่เราซื้อมา 2,363 บาท เมื่อต้องการที่จะเพิ่มเป็น 1 สลึง เราะต้องเพิ่มเงินอีก 3,637 บาท แต่ก็จะมีค่ากำเหน็จหรือค่าพรีเมี่ยมเพิ่มอีก เมื่อเราเลือกลวดลายของทองคำ ซึ่งขึ้นอยู่กับความปราณีตของงาน แต่หากต้องการซื้อทองไว้เพื่อเก็บไว้ขายเก็งกำไร ก็ขอแนะนำให้ซื้อทองคำแท่ง หากไม่เน้นใส่เป็นเครื่องประดับ และหากมีเป้าหมายเพื่อขายทำกำไร การซื้อทองคำแท่งก็จะได้ราคาที่ถูกกว่าและร้านทองจะรับซื้อในราคาที่สูงกว่าทองรูปพรรณ
นอกจากคำถามที่ว่า เพิ่มทอง ครึ่งสลึง เป็น 1 สลึง จะต้องเพิ่มเงินเท่าไหร่แล้ว ยังมีคำถามที่น่าสนใจอีกอย่างคือ
การเปลี่ยนลายทองครึ่งสลึง ต้องเพิ่มเงินหรือไม่ แล้วเพิ่มเท่าไหร่
ข้างต้นเราได้อธิบายถึงการเพิ่มน้ำหนักทองคำ คือ เพิ่มทอง ครึ่งสลึงเป็น 1 สลึง ต้องมีการเพิ่มเงินด้วย คำถามต่อไปคือการเปลี่ยนลายทอง สำหรับใครที่ชื่นชอบเครื่องประดับทองคำที่มีลวดลายสวยงามก็คงจะต้องรู้เรื่องนี้เอาไว้ เผื่ออยากนำทองไปเปลี่ยนเป็นลายใหม่
การเปลี่ยนลายทองคำ จริงๆ แล้วก็คือ “การนำทองเก่าไปขายแล้วซื้อทองใหม่” นั่นเอง ซึ่งเราจะต้องทำความเข้าใจว่า การรับซื้อทองที่เราจะนำไปขายนั้น ราคาจะไม่รวมค่ากำเหน็จหรือค่าลาย เพราะร้านขายทองจะรับซื้อตามน้ำหนักเนื้อทองที่เช่าได้เท่านั้น ไม่เกี่ยวกับลวดลายของทอง ดังนั้นราคารับซื้อคืนจึงมีราคาต่ำลง
เมื่อเราขายทองเก่าแล้ว และอยากซื้อทองลวดลายใหม่ เราก็จำเป็นที่จะต้องเพิ่มเงินค่ากำเหน็จใหม่ ราคาที่เพิ่มก็จะขึ้นอยู่กับลวดลายที่เลือกด้วย ราคาการรับซื้อทองคำคืนจะไม่เท่ากัน เพราะมีต้นทุนและการบริหารจัดการร้านแตกต่างกัน แต่ก็ยังคงยึดราคากลางจากทางสมาคมทองคำเป็นหลักในการคำนวนราคา โดยค่ากำเหน็งของทองงครึ่งสลึงจะอยู่ที่ประมาณ 250-500 และยิ่งหากเป็นลวดลายที่ยากขึ้นใช้ฝีมือมากขึ้น ค่ากำเหน็จก็ยิ่งแพงมากขึ้นด้วย ซึ่งค่ากำเหน็จถือว่าเป็นค่าแรงล่าไอเดียของผู้ผลิต
ในกรณีนี้ก็มีหลายคนที่อยากรู้ข้อมูลเช่นกันว่า หากเรามีทองเก่า และอยากไปเปลี่ยน เราจะต้องจ่ายเพิ่มหรือไม่ คำตอบของเรื่องคือ การที่เราอยากจะนำทองเก่าไปแลกเป็นทองใหม่นั้น เราจะต้องเสียค่าใช้จ่ายหลัก ๆ อยู่ 2 ส่วน คือ
โดยปกติแล้วทองคำบริสุทธิ์แท้จะมีเนื้อสัมผัสที่นิ่มมาก จำเป็นที่จะต้องใช้โลหะอื่น ๆ มาผสมด้วยเพื่อเพิ่มความแข็งแรง เวลาที่ช่างทำทองรูปพรรณขึ้นมา เขาจะต้องใช้น้ำประสานทองในการเชื่อมทองผสานเข้าด้วยกันให้เป็นรูปร่างต่าง ๆ เมื่อร้านทองรับซื้อทองคำเก่าเขาจำเป็นที่จะต้องหักราคาส่วนนี้ออกไป เพราะหากเขานำทองเก่าไปเผาไฟและหลอมขึ้นใหม่นั้น น้ำหนักของทองจะลดลง เพราะโลหะที่นำมาประสานทองจะถูกไฟไล่ออกไป ค่าน้ำประสานทองนี้ทางร้านจะหักออกแล้วแต่ทางร้านจะกำหนด แต่โดยปกติในการเปลี่ยนทอง ร้านขายทองจะคิดค่าน้ำประสานทองไม่เกิน 5 เปอร์เซ็นต?ของราคาทองวันนั้น ๆ
เมื่อนำทองเก่ามาเปลี่ยน แน่นอนว่าเราจะต้องเลือกลายทองใหม่ และแต่ละลายก็จะมีราคาแตกต่างกันออกไปตามความยากง่ายของการออกแบบ ทองเก่าที่เรานำไปให้เขาประเมินราคาและรับซื้อไป เขาจะไม่รวมค่าใช้จ่ายส่วนนี้ แต่เมื่อเราจะต้องเลือกทองใหม่ เราก็จำเป็นที่จะต้องเพิ่มเงินเพื่อส่วนนี้ด้วย
เราจะเพิ่มเงินเท่าไหร่เวลาที่ต้องการเปลี่ยนทองนั้นจะต้องคำนวณจาก
ค่าเปลี่ยนทองคำ = ราคาของทองตัวใหม่ – ราคารับซื้อทองคำเก่า
น้ำหนักที่หายไปของทองเก่าที่เราต้องการนำไปเปลี่ยน จะเกิดจะการใช้งานของเรา ลวดลายที่จางลงคือน้ำหนักที่หายไปเช่นกัน ดังนั้นหากเราซื้อทองรูปพรรณมาใช้ และอยากนำไปขายคืนให้ได้ราคาไม่ต่ำมากจนเกินไป คือต้องดูแลรักษาให้ดี เพื่อไม่ให้น้ำหนักของทองคำเสียไปมากจนเกินไป เพราะน้ำหนักที่หายไปก็คือเงินที่คุณจะได้รับ การเปลี่ยนทอง ไม่ว่าจะเปลี่ยนลวดลายทองหรือเปลี่ยนทองเก่าเป็นใหม่ เราก็ต้องเงินเพิ่มทั้งนั้น จะเสียมากหรือน้อยก็ต้องมาวัดกันที่น้ำหนักทองคำของเรา
ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลของการคำนวณเงินที่เราต้องจ่ายเพิ่ม เมื่อเราต้องการที่จะ เพิ่มทอง ครึ่งสลึง เป็น 1 สลึง หรือเปลี่ยนลายของทอง หรือแม้แต่การเปลี่ยนทองเก่าเป็นทองใหม่ ทั้งหมดนี้ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เรื่องนี้ทำให้เราเห็นว่า ทองรูปพรรณ เป็นทองที่จำเป็นที่จะต้องดูแลรักษาน้ำหนักไว้ให้ดี หากใครต้องการเก็บสะสมไว้ขายเก็งกำไรในอนาคตก็ต้องศึกษาเรื่องของค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเพิ่มให้ดี เพื่อที่เราจะสามารถคำนวณเงินทุนและกำไรได้อย่างถูกต้อง
การสะสมทอง เพิ่มทอง ครึ่งสลึง เป็น 1 สลึง ได้ก็เป็นเรื่องที่ท้าทายด้วย เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเก็บรักษาทองให้คงน้ำหนักที่ดีและลวดลายที่สวยงามไว้ตลอดได้ นอกจากนี้การที่เราจะเพิ่มน้ำหนักทอง เราก็จะต้องรู้กฎพื้นฐานของการรับซื้อทองแลละราคาจากทางสมาคมทองคำด้วย
การเปลี่ยนทองเก่าเป็นทองใหม่
1. ค่าหลอมหรือค่าน้ำประสานทอง
2. ค่ากำเหน็จทองใหมที่เราเปลี่ยน
สรุป
Comments
D. jhon shikon milon
Is this article helpful to you?
LikeReply