หุ้นอังกฤษ Index หรือ FTSE 100 Index คืออะไร

FTSE Group ถือเป็นผู้ให้บริการข้อมูลดัชนีหุ้นอังกฤษ index ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักมากที่สุดในประเทศอังกฤษ กลุ่มผู้ให้บริการข้อมูลดัชนีนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างหนังสือพิมพ์ Financial Times กับตลาดหุ้นอังกฤษ เมื่อปี 1984 โดยดัชนีที่ใช้อธิบายสภาวะการลงทุนและผลตอบแทนจากตลาดหุ้นอังกฤษมีชื่อที่เรียกกันทั่วไปว่า FTSE 100 Index ซึ่งวันนี้เราจะมาทำความรู้จักดัชนีหุ้นประเภทนี้ให้มากขึ้นกัน

หุ้นอังกฤษ Index หรือ FTSE 100 Index คืออะไร

FTSE 100 Index ย่อมาจาก Financial Times Stock Exchange 100 Index โดยจะมีอีกชื่อที่รู้จักกันดีคือ Footsie ซึ่งดัชนีตลาดหุ้นนี้จะคำนวณจากหุ้นบริษัทที่ใหญ่ที่สุด 100 อันดับแรก เรียงลำดับตามมูลค่าในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ดัชนีหุ้น FTSE 100 คือบริษัทที่มีมูลค่าหลักทรัพย์มากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าตลาด LSE หรือ London Stock Exchange

ผู้ดำเนินการบริหารจัดการดัชนีหุ้นอังกฤษ index นี้จะทำการอัพเดทราคาทุก ๆ 15 วินาที ไปเรื่อย ๆ ตลอดชั่วโมงของตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนที่เปิดให้ซื้อขาย เวลาเปิดซื้อขายจะอยู่ที่ 8.00 -16.30 น. ตามเวลาประเทศอังกฤษ หรือเวลา 14.00 – 22.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ราคา FTSE ลดลง หมายถึงมูลค่าในตลาดหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนที่ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักรลดลง หากมูลค่ารวมของบริษัทดังกล่าวมีดัชนีสูงขึ้นก็จะทำให้หุ้น FTSE ราคาสูงขึ้นเช่นกัน

วิธีคำนวณดัชนีหุ้นอังกฤษ

ดัชนีหุ้น FTSE 100 จะมีวิธีการคำนวณคล้ายคลึงกับดัชนีหุ้นอเมริกา เช่น S&P 500 และ Dow Jones เป็นต้น วิธีการคำนวณจะต้องมี ราคาหุ้น (Price of stock), จำนวนหุ้น (Number of share), ปัจจัยการกระจายสู่ผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free float adjustment factor) และตัวหารดัชนี (Index Divisor)

Index level=iprice of stocki ×Number of sharesi ×Free float adjustment factoriIndex divisor

ค่าดัชนีจะเป็นตัวบ่งบอกถึงการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของมูลค่าโดยรวมของบริษัท โดยการที่จะสามารถเข้าร่วมจัดอันดับตลาดหุ้นอังกฤษขนาดใหญ่ 100 อันดับแรกนั้นจะต้องดูจาก :

• ความเชื่อถือและความถูกต้องของราคาหุ้น

• ผู้ถือหุ้นมีสิทธิ์ลงคะนแนเสียงได้มากกว่า 5%

• เมื่อจดทะเบียนในอังกฤษแล้วจะต้องมีการกระจายหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นรายย่อยอย่างน้อย 25% และหากจดทะเบียนนอกประเทศอังกฤษจะต้องกระจายหุ้นให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยอย่างน้อย 50%

• ต้องผ่านเกณฑ์การเป็นเจ้าของหุ้นต่างชาติ และจำนวนหุ้นขั้นต่ำจะต้องสามารถให้นักลงทุนต่างชาติร่วมลงทุนได้

• ปริมาณซื้อขายหลักทรัพย์รายเดือนและรายปีจะต้องมีจำนวนอย่างน้อย 0.025% ของหุ้นออกทั้งหมด

หุ้นอังกฤษ จะมีการคำนวณและทบทวนในทุก ๆ ไตรมาสของปี และจะดำเนินการทุกเดือนมีนาคม มิถุนายน กันยายน และธันวาคม

ปัจจัยอะไรที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงตลาดหุ้นอังกฤษ

การเปลี่ยนแปลงของสภาวะเศรษฐกิจและการเมืองเป็นสิ่งที่สามารถทำให้เราเห็นการเปลี่ยนแปลงของตัวเลขในดัชนีหุ้นอังกฤษเช่นกัน คือ เมื่อช่วงใดที่เศรษฐกิจเติบโต ตลาดหุ้นอังกฤษ index ก็มักจะเคลื่อนไหวในทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากเกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น การกระจายรายได้ขยายตัว การจับจ่ายซื้อของอุปโภคบริโภคมีสภาพคล่องขึ้น บริษัทสร้างกำไรได้มากขึ้น กล่าวคือ สิ่งที่เป็นปัจจัยกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงของดัชนีตลาดหุ้นอังกฤษคือ

• การเคลื่อนไหวของสกุลเงิน

• ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อ

• ตัวเลขอัตราการจ้างงาน

• ตัวเลขยอดการค้าปลีกและการซื้อขายสินค้าอุปโภคบริโภค

• นโยบายเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง

ซึ่งใครที่สนใจหุ้นอังกฤษ ก็จำเป็นที่จะต้องติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของสภาวะเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอังกฤษอย่างใกล้ชิด เนื่องจากว่าหากบริษัทสร้างกำไรได้มากขึ้นนักลงทุนก็มักที่จะแห่กันไปซื้อหุ้นกับบริษัทนั้น ๆ ส่งผลให้ตลาดหุ้นโดยรวมปรับตัวสูงขึ้น

การเทรดดัชนีหุ้นอังกฤษ

หุ้นอังกฤษ index สามารถทำการเทรดออนไลน์ได้ ซึ่งจะเป็นการร่วมลงทุนแบบรายบุคคล ซึ่งเราต้องหาโบรกเกอร์ที่เปิดให้ร่วมเทรด CFDs และการลงทุนซื้อตราสารหนี้ EFTs ได้ เราไม่สามารถเข้าร่วมลงทุนหุ้นอังกฤษได้โดยตรง แต่เราสามารถที่จะติดตามผลการเคลื่อนไหวของตลาดหลักทรัพย์อังกฤษได้เท่านั้น

การเทรดดัชนีหุ้นอังกฤษหรือ FTSE 100 ผ่านโบรกเกอร์จะวิเคราะห์ตามรูปแบบของราคา โดยใช้เทคนิค Engulfing ดูกราฟแท่งเทียนเพื่อช่วยหาจุดกลับตัวของราคาตลาด ส่วนการเทรดที่ทำผ่าน Share CFDs นักลงทุนสามารถที่จะทำการเปิดออเดอร์ซื้อ (Long) หรือขาย (Short) ที่เกี่ยวกับดัชนี FTSE 100 ได้โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของราคาหลักทรัพย์ หากคิดว่าราคาหุ้นจะสูงขึ้นก็ให้เปิดออเดอร์ซื้อ ถ้าคิดว่าราคาลงก็ให้เปิดออเดอร์ขาย เราจะสามารถทำกำไรได้เมื่อทิศทางของราคาตรงตามคำสั่งออเดอร์ที่เราเปิด

ตัวอย่าง 20 รายชื่อบริษัทรายใหญ่ที่สุดที่อยู่ใน FTSE 100 อัพเดทเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2021

Market cap คืออะไร และสำคัญอย่างไรต่อหุ้นอังกฤษ

จากตัวอย่างรายชื่อบริษัทข้างต้น จะเห็นช่อง market cap และหลายคนอาจจะสงสัยว่ามันคืออะไร และทำไมเราตต้องรู้เรื่องนี้ Market cap ย่อมาจาก Market capitalization หรือก็คือ มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด กล่าวคือ เป็นมูลค่ารวมของหุ้นอังกฤษ index ที่จำหน่ายได้แล้วของบริษัท ซึ่งมูลค่าตลาดจะคำนวณโดยการนำหุ้นที่จำหน่ายได้นั้นมาคูรกับราคาปัจจุบันของหุ้นบริษัท และ Market cap หรือมูลค่าตามราคาตลาดนี้จะเป็นตัวนี้กำหนดว่าบริษัทนั้น จะถูกนำมารวมอยู่ใน FTSE 100 ด้วยหรือไม่นั่นเอง นอกจากนี้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดหรือ Market cap นี้จะเปลี่ยนแปลงขึ้นลงไปตามราคาหุ้นของบริษัทที่จัดทำดัชนี

นอกจากหุ้นอังกษฤษ FTSE 100 index แล้วยังมีหุ้น FTSE อื่นๆ อีกหรือไม่

หุ้นอังกฤษ index เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่บ่งชี้สภาวะทางเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรและเศรษฐกิจระหว่างประเทศเป็นอย่างดี ดัชนี FTSE 100 ถือเป็นดัชนีที่นิยมกันมากในประเทศอังกฤษ แต่ก็มีดัชนีอื่น ๆ อีกเช่นกัน คือ FTSE 250 ที่เป็น 250 บริษัทที่มีขนาดใหญ่รองลงมา ซึ่งเป็นบริษัทในประเทศอังกฤษทั้งหมด และมี FTSE 350 ซึ่งเป็นผลรวมของ FTSE 100 และ 250 นอกจากนี้หุ้นอังกฤษยังมี S&P 500 ที่เป็น 500 บริษัทที่ใหย่ที่สุดที่จดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก

หุ้นอังกฤษ index ไม่ได้เป็นเพียงชื่อบริษัทเท่านั้น แต่ยังรวมถึงตราสารหนี้ เช่นดัชนี Bloomberg Barclays Global Aggregate และ Bloomberg Commodity Index ที่จะมีการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ อย่าง น้ำมัน ทองคำ ทองแดงและข้าวโพด การเทรดหรือซื้อขายหุ้นดัชนีสามารถทำให้เราได้กำไรทั้ง 2 ทาง คือ ได้ทั้งฝั่งซื้อ Buy และฝั่งขาย Sell นั่นหมายความว่า ไม่ว่าตลาดหุ้นจะขึ้นหรือลงเราก็สามารถได้กำไรได้

ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับใครหลายคนที่กำลังสนใจซื้อขายหุ้นอังกฤษ index ซึ่งมือใหม่หัดเทรดหุ้นอังกฤษก็ควรที่จะหาข้อมูลและเข้าความหมายและที่มาของหุ้นดัชนีประเภทนี้ให้ดีด้วย การลงทุนควรมาพร้อมกับความรู้ความเข้าใจตลาด หากเราเข้าใจสภาพของตลาดมากเท่าไหร่ การลงทุนของเราก็จะก่อกำไรให้ได้มากเท่านั้น

เรื่องของหุ้นอังกฤษ index ที่นำเสนอวันนี้ก็เป็นเพียงข้อมูลพื้นฐานเพื่อให้นักลงทุนหน้าใหม่ได้ทำความเข้าใจและรู้จักให้มากขึ้นเท่านั้น และหากสนใจเทรดก็สามารถทำได้ โดยเลือกเทรดกับโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และมีสเปรดต่ำ มีค่าคอมมิชชั่นที่ไม่สูงเกินไปนัก