ช่องทางการแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโตที่ดีที่สุดในประเทศไทย

    การลงทุนและการเทรดบิตคอยน์หรือสกุลเงินคริปโตต่างๆ อาจจะดูน่ากลัวสำหรับใครหลายๆ คนในช่วงแรกๆ ไม่ว่าเป็นข่าวเกี่ยวกับการหลอกลวงให้คนไปเทรด รวมถึงการเสียเงินไปอย่างง่ายๆ ซึ่งในความเป็นจริงนั้นก็มีการหลอกลวงมากขึ้นทุกวัน ๆ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องงานเลยในการลงทุนสกุลเงินคริปโตอย่างปลอดภัย

    ความกังวลในการเทรดและการซื้อบิตคอยน์ หรือสกุลเงินคริปโตอย่างปลอดภัยนั้น เมื่อคุณต้องการที่จะซื้อหรือถือเหรียญของคุณในระยะยาว หรือคุณจะเลือกเทรดในระยะเวลาสั้นๆ มันก็มีที่ที่คุณสามารถเทรดโดยที่ไม่ต้องระบุชื่อหรือมีความเป็นส่วนตัวในการเทรด คุณก็สามารถเทรดได้ตามช่องทางต่อไปนี้

    รายการข้างล่างที่จะพูดถึงเป็นช่องทางในการแลกเปลี่ยนที่ดีที่สุดในแต่ละหมวดของการแลกเปลี่ยน ซึ่งมันมีหลายทางในการเข้าไปลงทุนในบิตคอยน์หรือสกุลเงินคริปโตอื่นๆ เพื่อที่จะเรียนรู้มากขึ้นถึงความแตกต่างของช่องทางในการแลกเปลี่ยนนั้น สามารถอ่านได้ในรายการข้างล่าง เมื่อคุณตัดสินใจที่จะลงทุนแล้วนั้น มันก็สำคัญที่คุณจะต้องรู้จักเก็บเหรียญของคุณไว้อย่างปลอดภัยอีกด้วย

    ช่องทางที่ดีที่สุดในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโตที่ประเทศไทยในปี 2021

    BITKUP (บิตคับ)

    เป็นที่นิยมมากที่สุด

    2,787,361,010.43

    Satang pro (สตางค์ โปร)

    ใช้ง่ายมากที่สุด

    52,771,402.23

    ETORO

    ครอบคลุมสกุลเงินมากที่สุด

    742,624,688.94

    Binance (ไบแนนซ์)

    อนุมัติไวมากที่สุด

    889,389,820,114.35



    ช่องทางในการแลกเปลี่ยนที่ดีที่สุดในปี 2021


    บทความด้านล่างต่อไปนี้จะกล่าวถึงช่องทางในการซื้อบิตคอยน์ในประเทศไทย และช่องทางในการเทรดหรือซื้อขายสกุลเงินคริปโตในประเทศไทย

    1. BITKUP (บิตคับ)

    บิตคับเป็นเว็บเทรดสัญชาติไทยต่อตั้ง บิตคับก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2561 สำนักงานใหญ่ตั้งที่อยู่ที่ตึกสิงห์ กรุงเทพ ซึ่งในแอพพลิเคชั่นนั้นสามารถเทรดหรือซื้อขายสกุลเงิน อยู่ภายใต้การกำกับของกลต. ซึ่งในเป็นเว็บสัญชาติไทยนั้น จึงทำให้คนไทยสามารถเทรดบิตคอยน์ด้วยเงินบาทได้นั่นเอง ค่าธรรมเนียม 0.25% ทั้งการซื้อและการขาย

    - ค่าถอนเงินออกจากแอพพลิเคชั้นครั้งละ 25 บาท

    - รองรับเงินสกุลเงินบาท

    - มีสกุลเงินคริปโต 46 ชนิค ที่ให้เทรดได้ในเว็บเทรด

    · ข้อดี

    - ฝากถอนรวดเร็ว

    - มีกิจกรรมต่างๆในผู้ใช้เข้าร่วม เช่น มีการลงทะเบียนแจกเสื้อยืดฟรี

    - มีการแจ้งเตือนผ่าน application Line

    - รูปแบบของแพลตฟอร์มดูง่ายและสบายตา และสามาถเข้าได้ง่าย

    - ฝ่ายบริการลูกค้าตอบลูกค้าไว บริการรวดเร็ว

    · ข้อเสีย

    - มีตัวเลือกสกุลเงินคริปโตให้เลือกซื้อและขายน้อย เมื่อเทียบกับเว็บเทรดอื่นๆ ที่เป็นของสัญชาติอื่นๆ

    - จากเสียงผู้ที่เพิ่งสมัครใช้งาน BITKUP หลายๆคนให้ความเห็นว่า ใช้เวลาในการยืนยันตัวตนนาน เมื่อเทียบกับตัวเลือกอื่นๆ

    2. Satang pro (สตางค์ โปร)

    สตางค์ โปรถือเป็นอีกเว็บเทรดหรือช่องทางการซื้อขายสกุลเงินคริปโตสัญชาติไทย ก่อตั้งเมื่อปี 2560 ซึ่งสตางค์ โปรนั้นอยู่ภายใต้การกำกับและการดูแลของ กลต. เช่นเดียวกับบิตคับ เนื่องจากเป็นของสัญชาติไทย จึงสามารถเทรดบิตคอยน์หรือสกุลเงินคริปโตอื่นๆ ได้ในหน่วยเงินบาท

    - ค่าธรรมเนียม 0.25% ทั้งการซื้อและการขาย

    - มีค่าธรรมเนียมในการฝากและถอนเงิน

    - รองรับสกุลเงินบาท

    - มีสกุลเงินคริปโต 12 ชนิดที่ให้เทรดได้ในเว็บเทรด

    · ข้อดี

    - การฝากและการถอนถือว่ามีความรวดเร็ว

    - รูปแบบของแพลตฟอร์มดูง่ายและสบายตา และสามาถเข้าได้ง่าย

    · ข้อเสีย

    - ตัวเลือกสกุลเงินคริปโตยังถือว่ามีให้เลือกน้อย

    - ปริมาณการซิ้อขายไม่มาก ทำให้สภาพคล่องต่ำ

    - ยังไม่รองรับการซื้อขายเหรียญดิจิตอล

    3. Binance (ไบแนนซ์)

    ไบแนนซ์ก่อตั้งเมื่อปี 2560 สำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศมอลต้า ซึ่งภายในเว็บเทรดนั้น คุณสามารถเลือกเทรดสกุลเงินดิจิตอลได้หลากหลายชนิด โดยภายในเว็บเทรดหรือแอพพลิเคชันของไบแนนซ์นั้นมีเปิดให้เลือกซื้อขายหลายแบบ ดังนี้ ตลาดแบบสปอต (SPOT) ซึ่งเป็นการซื้อมาขายไปแบบธรรมดา ส่วนอีกแบบคือแบบ Margin ซึ่งเป็นแบบที่คุณสามารถยืมเงินกับไบแนนซ์ได้ แต่คุณต้องทำการจ่ายดอกเบี้ยคืนให้กับทางไบแนนซ์ด้วย แบบสุดท้ายก็คือตลาดแบบอนุพันธ์ FUTURE ซื้อหรือขายสกุลเงินคริปโตกันล่วงหน้า ที่ตกลงกันวันนี้ แต่ใช้ราคาในอนาคต โดยการเล่นแบบ FUTURE นั้นเป็นการเล่นที่มีความเสี่ยงเป็นอย่างมาก คุณอาจจะได้กำไรให้ปริมาณที่มากกว่าการเทรดในรูปแบบปกติ แต่คุณก็มีความเสี่ยงตรงที่คุรก็สามารถเสียเงินไปง่ายกว่าการเทรดแบบอื่นเช่นกัน

    - ค่าธรรมเนียมการเทรด เริ่มต้นที่ 0.1%  ซึ่งหากใช้เหรียญ BNB ซึ่งเป็นเหรียญของ BINANCE จะมีส่วนลดให้

    - ไม่รองรับภาษาไทย

    - มีสกุลเงินคริปโตมากกว่า150 ชนิดที่ให้เทรดได้ในเว็บเทรด

    · ข้อดี

    - มีสกุลเงินคริปโตให้ผู้ใช้งานได้เลือกเทรดเยอะ

    - มีส่วนลดค่าธรรมเนียมให้สำหรับผู้ใช้เหรียญ BNB

    - เป็นเว็บเทรดที่มีปริมาณซื้อขายมากที่สุดในโลก สภาพคล่องสูง

    - ค่าธรรมเนียมในการซื้อขายถูกกว่าเว็บเทรดอื่นๆ

    · ข้อเสีย

    - ระบบไม่รองรับการใช้งานภาษาไทย ทำให้อาจจะมีปัญหาในเรื่องความเข้าใจต่างๆ

    4. ETORO

    อีโทโร่ก่อตั้งเมื่อปีพ.ศ 2561 สำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศอังกฤษ โดยการใช้งานนั้นมีฟังก์ชันที่เราสามารถทำการเทรดเหมือนผู้เทรดเก่งๆในอีโทโร่ได้ ซึ่งทำให้คุณนั้นสามารถปลอดภัยจากการเสียเงินลงทุนไปได้มากสำหรับผู้ที่เป็นมือใหม่ หรือยังไม่ได้ความรู้ในส่วนของการลงทุนคริปโตมากนัก

    - เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการซื้อขายเพียงอย่างเดียวคือค่าสเปรด

    - มีการแจกโบนัสเมื่อผู้ใช้งานชวนเพือนมาใช้งาน โดยให้โบนัสสูงสุดถึง 100 ดอลล่าร์สหรัฐหรือมากถึง 3000 กว่าบาทนั่นเอง

    · ข้อดี

    - มีความมั่นคงสูง และเป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลาย

    - สำหรับผู้เล่นมือใหม่ สามารถก็อปปี้การเทรดของผู้เล่นเก่งๆได้

    - มีการแจกโบนัสสำหรับการชวนเพื่อนมาใช้งาน (ต้องเทรดให้ได้กำไรจำนวนหนึ่งถึงจะถอนได้)

    · ข้อเสีย

    - ถึงแม้จะไม่มีค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย แต่ทางเว็บเทรดก็มีเก้บค่าสเปรด ซึ่งแตกต่างไปในแต่ละสกุลคริปโตในราคาที่ค่อนสูงอยู่ดี

    - การใช้งานในเว็บเทรดค่อนข้างใช้ยาก

    5. COINBASE (คอยน์เบส)

    เป็นเว็บเทรดสัญชาติอเมริกา ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2555 ซึ่งคอยน์เบสนั้นนับว่าเป็นตลาดในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งในเว็บคอยน์เบสนั้นมีเหรียญในคุณเลือกซื้อและขายมากมายหลายเหรียญ โดยตอนนี้คอยน์เบสก็ได้เข้าไปอยู่ในตลาดหุ้นของอเมริกาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นก้าวที่สำคัญของวงการสกุลเงินดิจิตอลเลยทีเดียว

    - มีความปลอดภัยในการลงทุนเป็นเว็บเทรดที่น่าเชื่อถือ

    - มีสกุลเงินคริปโตให้เลือกเทรด 25 ชนิด

    - แอพพลิเคชั่นมีความเรียบง่าย

    - Coinbase Pro มีค่าธรรมเนียมที่ถูกกว่าพร้อมคุณสมบัติเพิ่มเติมและใช้งานได้ฟรีสำหรับทุกคนที่มีบัญชี Coinbase

    · ข้อดี

    - มีเหรียญคริปโตทางเลือกให้เลือกซื้อ ขาย รวมถึงการฝากเพื่อเอาดอกเบี้ย

    - มีหน้าตาแพลตฟอร์มที่เรียบกว่า ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้สะดวก

    - มีสภาพคล่องสูง ซึ่งสามารถปกป้องนักลงทุนจากการที่ราคาร่วงอย่างรุนแรงได้ ในตลาดที่มีความผันผวนอย่างคริปโต

    · ข้อเสีย

    - ค่าธรรมเนียมจะสูงมาก ถ้าหากคุณไม่ได้สมัคร coinbase pro คอยน์เบส โปร

    - ผู้ใช้ไม่สามารถที่จะควบคุมกุญแจสำหรับการเข้า wallet

    - เหรียญทางเลือกมีให้เลือกเยอะก็จริง แต่เมื่อเทียบกับเว็บเทรดอื่นๆแล้วนั้น ยังถือว่ามีน้อย

    วิธีการซื้อและขายบิตคอยน์ในประเทศไทย

    BX Thailand บีเอ็กซ์ ไทยแลนเ ถือเป็นช่องทางนึงในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโตที่ใหญ่ที่สุดแห่งนึงในประเทศไทย โดยบีเอ็กซ์ไทยแลนด์เปิดโอกาสให้คนไทย สมัครและเปิดบัญชีเพื่อสมัครได้แล้ว โดยสามารถเลือกเทรดได้ทั้งบิตคอยน์และสกุลเงินดิจิตอลอื่นๆ นอกจากนั้นแล้วยังเสนอฟีเจอร์ต่างๆที่ทำให้การเทรดของคุณสนุกมากยิ่งขึ้น

    Buy & Trade Bitcoin in Thailand

    Comments

    • December 7, 8.00
      D. jhon shikon milon

      Is this article helpful to you?

      LikeReply