การทําบัตรเครดิต ต้องใช้อะไรบ้าง

อีกหนึ่งเรื่องกังวลสำหรับคนที่อยากมีบัตรเครดิตสักใบ คือการเตรียมเอกสารเพื่อยื่นขออนุมัติบัตรเครดิตจากทางธนาคาร ขั้นตอนของการเตรียมเอกสารถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ สำหรับการสมัครบัตรเครดิต เพราะมีเรื่องของการพิจารณาประวัติทางการเงินของเราเพื่อที่จะอนุมัติการออกบัตรให้ด้วย วันนี้เราจะมาดูกันว่าต้องเตรียมเอกสารอย่างไรบ้าง เพื่อไม่ให้เสียเวลาในการไปๆมาๆ ธนาคารหลายรอบ และให้การยื่นขอบัตรเครดิตของเราเป็นไปอย่างราบรื่น

เงื่อนไขการทำบัตรเครดิต

เอกสารประกอบการพิจารณาการยื่นขอสินเชื่อถือเป้นหลักฐานที่สำคัญที่จำเป็นที่จะต้องเตรียมให้ถูกต้องและครบถ้วน การยื่นขอบัตรเครดิตจะต้องมีเอกสารที่แสดงตัวตนของผู้ยื่นขอที่ชัดเจน เป็นจริงและตรวจสอบได้ เพราะการใช้บัตรเครดิตก็เหมือนเป็นการยืมเงินธนาคารใช้ล่วงหน้า ธนาคารจึงจำเป็นที่จะต้องเก็บหลักฐานสำคัญเพื่อการเรียกเก็บเงินคืนในกรณีที่เกิดหนี้สิน ซึ่งเอกสารที่เราจะต้องเตรียมให้พร้อมก็จะมีดังต่อไปนี้ 

บัตรประชาชน 

บัตรที่สามารถแสดงความเป็นตัวตนของเราได้มากที่สุดก็คือบัตรประชาชน โดยธนาคารต้องการเก็บไว้เพื่อเป็นหลักฐานในการยื่นขอบัตรเครดิต สำหรับบัตรประชาชนของเรา เราควรที่จะตรวจสอบสภาพของบัตร วันหมดอายุ ว่าพร้อมที่จะนำไปถ่ายเอกสารให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจนถูกต้องหรือไม่

ทะเบียนบ้าน

ทางสถาบันทางการเงินต้องการความน่าเชื่อถือของเรา จึงต้องการเอกสารที่แสดงที่อยู่ของเราด้วย เพราะการมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งและสามารถติดต่อได้จริงในกรณีที่เกิดการติดหนี้สินขึ้นมาก็เป็นเรื่องสำคัญที่จะนำไปใช้ประกอบการพิจารณาด้วย ดังนั้นเราจึงควรอัพเดทข้อมูลส่วนนี้ให้เป็นปัจจุบันและตรงตามความจริงด้วย

สมุดเงินฝากบัญชีธนาคาร 

การอัพเดทสมุดเงินฝากธนาคารอยู่เสมอ จะเป็นประโยชน์อย่างมากในการยื่นขอบัตรเครดิต เพราะจะทำให้การพิจารณาการยื่นขอบัตรเครดิตมีความง่ายขึ้น

หนังสือรับรองเงินเดือน

หนังสือรับรองเงินเดือนนี้เป็นเอกสารตัวเลือกสำหรับใครที่ไม่มีสลิปเงินเดือน เป็นเอกสารที่จะรับรองรายได้ของเราและเป็นการยืนยันจากที่ทำงานว่าเราเป็นพนักงานของบริษัทนั้นจริง โดยสามารถขอเอกสารนี้ได้จากฝ่ายบุคคลหรือธุรการของบริษัทของเรา เพื่อให้ออกเอกสารรับรองนี้

สลิปเงินเดือน 

พนักงานประจำที่ได้รับเงินเดือนผ่านบัญชีธนาคารส่วนใหญ่แล้วก็จะได้รับสลิปเงินเดือนเป็นประจำทุกเดือน ซึ่งเราสามารถนำมายื่นเพื่อขอทำบัตรเครดิตได้ เอกสารนี้จะแสดงรายได้ที่ชัดเจนของเราในแต่ละเดือน โดยฝ่ายบุคคลหรือฝ่ายธุรการจะเป็นผู้ออกสลิปเงินเดือนให้เรา 

รายการเดินบัญชีย้อนหลัง (Statement)

สำหรับใครที่ไม่ได้สนใจเก็บสลิปเงินในแต่ละเดือนไว้หรืออาจจะทำหายบ่อย ๆ ก็ไม่ต้องกังวล เพราะทางสถาบันการเงินรับพิจารณา Statement หรือรายการเดินบัญชีย้อนหลังของเรา ซึ่งการขอเอกสารนี้ก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรนัก เพียงแค่เรานำบัตรประชาชนและสมุดบัญชีธนาคารนั้น ๆ ไปยื่นขอกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร และแจ้งว่าต้องการข้อมูลเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน หรือ 12 เดือนแล้วแต่เงื่อนไขของบัตรเครดิตแต่ละประเภท 

เอกสาร 6 อย่างที่ได้กล่าวมาทั้งหมดนี้ จำเป็นที่จะต้องถ่ายสำเนาและเซ็นชื่อสำเนาถูกต้องด้วยอย่างละ  1 ฉบับ และในวันที่เรายื่นขอบัตรเครดิร เราจะต้องนำเอกสารตัวจริงทั้งหมดไปด้วย เพื่อการตรวจสอบในขั้นต้นว่า เอกสารทั้งหมดไม่ได้ถูกนำมาปลอมแปลงข้อมูลแม่แต้อย่างไร และสิ่งที่เราจะต้องตรวจสอบให้ดีก่อนยื่นเอกสารก็คือ

• ศึกษาข้อมูลเงื่อนไขการยื่นขอบัตรเครดิตให้ดีว่า ฐานเงินเดือนของเราตรงตามเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนดไว้หรือไม่

• อย่าลืมเซ็นชื่อกำกับสำเนาเอกสารทุกใบและเซ็นสำเนาถูกต้องด้วย เพื่อแสดงตัวตนของผู้ยื่นขอว่าเป็นตัวจริง

• กรอกข้อมูลลงในเอกสารยื่นสมัครขอบัตรเครดิตให้ครบถ้วน ข้อมูลที่สำคัญคือ ชื่อขสกุล ที่อยู่ เบอร์โทร และที่ทำงาน

• โปรดรู้ไว้ว่า ธนาคารจะโทรไปที่ทำงานของเราเพื่อยืนยันข้อมูลว่าเราทำงานที่นั่นจริง ๆ อย่าลืมแจ้งฝ่ายบุคคลของบริษัทเรา และระบุเวลาที่บริษัทสะดวกรับสาย เพราะมีหลายคนไม่ได้รับการอนุมัติบัตรเครดิต เพราะติดต่อกับที่ทำงานไม่ได้หรือไม่มีคนรับสายนั่นเอง

สมัครบัตรเครดิต KTC (บัตรเครดิต ktc แบบไหนดี)

หลายคนอาจจะมีข้อสงสัยอยู่ว่าบัตรเครดิต ktc อันไหนดี เพราะบัตรเครดิตแบรนด์นี้ค่อนข้างมีหลากหลายแบบ หลายตัวเลือก อีกทั้งยังมีความแตกต่างในเรื่องของโปรโมชั่น ข้อเสนอพิเศษที่โดนใจเกือบจะแทบทุกใบ ดังนั้นการเปรียบเทียบบัตรเครดิต ktc จึงเป็นเรื่องยากอยู่พอสมควร วันนี้เราจะมาดูบัตรเครดิต ktc สำหรับทุกคน ทั้งที่เงินเดือน 15,000 บาทหรือมากกว่านั้นมีบัตรตัวไหนน่าสนใจบ้าง

บัตรเครดิต KTC Visa Platinum

ใครที่สนใจสมัครบัคร ktc visa platinum สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ที่เบอร์โทร 02-123-5000 กด 8 ซึ่งเป็นบริการผู้ช่วยส่วนตัว KTC Personal Assistant 

สิทธิประโยชน์ของบัตร KTC Visa Platinum 

• ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี

• ผ่อนชำระสินค้าและบริการด้วยดอกเบี้ยพิเศษ 0% สูงสุด 10 เดือน และเปลี่ยนยอดชำระเต็มเป็นผ่อนชำระได้ด้วยอัตรา 0.74% สูงสุด 10 เดือน

• สมาชิกใหม่บัตร KTC จะได้สิทธิพิเศษรับความคุ้มครองอุบัติเหตุวงเงินสูงสุด 300,000 บาท นาน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่เปิดใช้

• ประกันอุบัติเหตุการเดินทางทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยวงเงินประกันคุ้มครองสูงสุด 8,000,000 บาท รวมถึงประกันกระเป๋าเดินทางสูญเสียหรือสูญหายด้วยวงเงินสูงสุด 40,000 บาท/ครั้ง ในกรณีที่ชำระค่าเดินทางด้วยบัตรเครดิต

• สามารถเบิกถอนเงินสดได้ ในวงเงินไม่เกิน 20,000 บาทต่อวัน (วงเงินสูงสุดที่เบิกได้ยังขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของตู้ ATM แต่ละแห่งด้วย)

• รับ 1 คะแนน ทุก 25 บาท เมื่อจ่ายผ่านบัตร โดยคะแนนไม่มีวันหมดอายุ

เงื่อนไขในการสมัครบัตรเครดิต KTC Visa Platinum คือ จะต้องมีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป มีรายได้ 15,000 บาทต่อเดือน สำหรับชาวต่างชาติจะต้องมีเงินเดือนตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป

บัตรเครดิต KTC Platinum Mastercard

บัตรเครดิตตัวนี้ดูจะเหมาะสมกับนักช็อปออนไลน์ เพราะคุ้มค่าและมีส่วนลดมอบให้ผู้ใช้บัตรนี้จ่ายที่เว็บ Lazada, Shopee, JD Central, Pomelo และอื่น ๆ อีกหลายร้านที่ร่วมรายการ 

สิทธิประโยชน์ของบัตร KTC Platinum Mastercard 

• ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี

• รับประกันการซื้อสินค้าออนไลน์ทุกครั้ง กรณีไม่จัดส่งสินค้า หรือจัดส่งผิดด้วยข้อมูลใด ๆ ไม่ถูกต้อง ด้วยวงเงินประกันสูงสุด 200 เหรียญดอลล่าสหรัฐ

• ผ่อนชำระสินค้าและบริการด้วยดอกเบี้ยพิเศษ 0% สูงสุด 10 เดือน และเปลี่ยนยอดชำระเต็มของเดือนถัดไปเป็นผ่อนชำระได้ด้วยอัตรา 0.74% สูงสุด 10 เดือน

• สมาชิกใหม่รับความคุ้มครองอุบัติเหตุด้วยวงเงินสูงสุด 300,000 บาท นาน 90 วัน นับจากวันที่เปิดบัตร

• ประกันอุบัติเหตุทั้งในและต่างประเทศวงเงินสูงสุด 8,000,000 บาท และประกันการสูญเสียและสูญหายของกระเป๋าเดินทาง 40,000 บาทต่อครั้ง เมื่อชำระค่าเดินทางด้วยบัตรเครดิต

• เบิกถอนเงินสดได้สูงสุดไม่เกิด 200,000 บาทต่อวัน (ขึ้นอยู่กับข้อจำกัดของตู้เอทีเอ็มด้วย)

บัตรเครดิต scb แบบไหนดี

มาดูบัตรเครดิตยอดนิยมอีกค่ายหนึ่งอย่าง SCB ซึ่งเราจะแนะนำบัตรที่เหมาะสำหรับคนที่มีครอบครัวและคนโสดที่รักอิสระจากค่ายนี้ 

บัตรเครดิต SCB Family Plus 

ทุกการใช้จ่ายผ่านบัตรนี้ เราจะได้เงินคืนสูงสุด 1% และสิทธิพิเศษสำหรับทุกคนที่ใช้บัตรนี้ใช้จ่ายในวันเกิดยังจะได้รับเครดิตเงินคืนถึง 4% ไม่ว่าจะงานสังสรรค์ของคนในครอบครัวรูปแบบไหน หรือจะเดินทางไปฉลองกันทั้งครอบครัวที่ไหน บัตรเครดิต SCB Family Plus ก็เอาอยู่หมด อีกทั้งยังเป็นบัตรที่ช่วยออมเงิน โดยจะเพิ่มดอกเบี้ยเงินฝากประจำเพิ่มให้อีก 1% เมื่อใช้บัตรรูดชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ

บัตรเครดิต SCB UP2ME

อีกความสะดวกสำหรับคนโสดที่รักชีวิตอิสระ ด้วยการใช้จ่ายแบบอิสระกับ SCB ที่เข้าทุก lifestyle ของทุกคน โดยจะให้คะแนนสูงสุด 3 เท่า เมื่อเราใช้จ่ายตามหมวดไลฟ์สไตล์ที่เราเลือก ใครก็ตามที่ชื่อชอบการสังสรรค์กับเพื่อน ดูหนัง ช็อปปิ้ง หรือสุขภาพความสวยงาม ต้องไม่ลืมพกบัตรนี้ เพื่อสะสมคะแนน นำไปแลกของรางวัลหรือสิทธิพิเศษมากมายที่คุ้มสุด ๆ และหากใช้รูดชำระสินค้าในวันเกิดก็จะได้รับคะแนนสูงสุด 5 เท่าเลยทีเดียว อีกอย่างคือ หมดกังวลได้เลยกับค่าธรรมเนียมบัตร เพราะบัตรนี้ฟรีค่าธรรมเนียมตลอดชีพ 

ไม่ว่าจะสนใจสมัครบัตรเครดิตของค่ายไหน ๆ ก็อย่าลืมตรวจสอบเกณฑ์การพิจารณาในการสมัครบัตรเครดิต และเตรียมเอกสารสำคัญ ๆให้พร้อม เพื่อให้การยื่นสมัครขอมีบัตรเครดิตจะผ่านฉลุยและได้บัตรมาใช้แบบราบรื่น ที่สำคัญควรเลือกบัตรที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของตัวเองเพื่อจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้บัตรเครดิต นอกจากนี้การใช้บัตรเครดิตควรที่จะเพิ่มความระมัดระวังในการใช้จ่ายให้ดี เพื่อจะได้ไม่เกิดความเสี่ยงต่อการก่อหนี้สินในอนาคต