ซื้อทองแท่งที่ไหนดี 10 อันดับ ร้าน ทอง

    เริ่มต้นลงทุนในทอง

    ดังที่ทุกท่านทราบว่า ราคาของทองคำแท่งเมื่อเทียบกับราคาของทองรูปพรรณ เมื่อเทียบจากน้ำหนักแล้ว ราคาของทองคำแท่งจะถูกกว่า เนื่องจากมิได้เป็นสินค้าที่ผ่านกระบวนการมากมาย (ทองล้วน ๆ) ให้เกิดเป็นรูปร่าง รูปทรงต่าง ๆ เช่นทางรูปพรรณ (ค่ากำเหน็จ)

    ทองคำแท่งน้ำหนักหนึ่งบาท มีน้ำหนักเท่ากับ 15.244 กรัม ส่วนทองรูปพรรณน้ำหนักหนึ่งบาท มีน้ำหนักเท่ากับ 15.16 กรัม ทางฝั่งตะวันตก จะประมาณน้ำหนักของทองเป็นหน่วยของ “ทรอย ออนซ์” (Troy Ounce) ทอง 1 ออนซ์ มีน้ำหนัก 31.1034768 กรัม

    ในการหล่อทองขึ้นมานั้น เขาจะนำน้ำทองร้อน ๆ เทลงบล็อก และจะเรียกว่า “ค่าบล็อก” มีมูลค่าประมาณ 100 – 500 บาท (สกุลเงิน) ส่วนทองรูปพรรณนั้น ต้องมีวิธีการต่าง ๆ ให้ได้ออกมา จึงมี “ค่ากำเหน็จ” ประมาณ 500 – 1,000 บาท ในปริมาณน้ำหนัก 1 บาทเท่ากัน

    จะซื้อทองคำแท่ง (Bullion) ได้ที่ไหน

    มี 2 วิธีการ หากต้องการได้ทองมาเก็บไว้ (Physical Gold) ก็ไปที่ห้างทอง และทำการซื้อขายได้เลย ปัจจุบันห้างทองเก่าแก่ก็หันมาใช้ระบบการซื้อขายแบบออนไลน์ เมื่อคำสั่งซื้อเสร็จสิ้น ผู้จะขายก็นำทองไปฝากไว้ที่สาขาของห้างทอง ผู้จะซื้อก็มารับที่สาขาของห้างทอง หรืออีกวิธีการคือ การซื้อแบบสัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือ Gold Futures (โกลด์ฟิวเจอร์ส) วิธีการหลังนี้นักลงทุนจะต้องทำการเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยก่อน

    วิธีเลือกซื้อทองแผ่น (Gold Bar)

    จริง ๆ แล้ว หลักการโดยทั่วไปของการเลือกซื้อทองแผ่น (Gold Bar) นั้น ก็ไม่แตกต่างจากการซื้อทองคำแท่งทั่วไป เพียงแต่ควรเพิ่มความรอบคอบในการตรวจเช็กให้ดีก่อน เพราะว่ามีขนาดเล็กเท่าข้อนิ้วก้อยของผู้ใหญ่ ดูว่าเป็น “ทอง” จริง ๆ มิใช่ทองเหลืองนำมาขัดเงา หรือว่าเป็นโลหะชนิดอื่น

    จากตัวอย่างภาพทองแผ่นข้างต้น จะเห็นว่าทองแผ่นมักจะมาในรูปของ “การ์ด” อาจมีการ์ดขนาดเท่ากับบัตรเครดิต และสอดทองแผ่นไว้คล้าย ๆ ซิมการ์ดโทรศัพท์

    ผู้ซื้อควรตรวจดูว่า ผิวหน้าของทองจะมีตราปั๊มโลโก้ของห้างทอง ข้อมูลทอง และข้อมูลอื่น ๆ ที่จำเป็น งานดี เรียบเนียน และมีน้ำหนัก (หน่วย: กรัม) ตรงตามน้ำหนักทองที่แจ้งไว้ (เช่น 25 สตางค์)

    จะซื้อทองคำแท่ง เขาต้องดูอะไรกันบ้าง

    เพื่อไม่ให้ถูกร้านค้าทองหลอก หรือกดราคา และเพื่อสร้างความมั่นใจก่อนการก้าวเข้าสู่การลงทุนในทอง ขอนำเสนอวิธีการตรวจสอบก่อน ดังนี้

    ศึกษาราคากลางของทองคำแท่ง

    ราคากลางนี้ สามารถหาดูได้จากเว็บไซต์ของห้างทองหรือสมาคมค้าทางคำแห่งประเทศไทย ซึ่งมีอัพเดทอยู่เสมอ ๆ

    เงินทุนและสภาพคล่อง

    แม้จะมีเงินก้อนที่พอจะซื้อทองคำแท่งในราคาที่ตนพอใจได้ แต่อย่าลืมนึกถึงว่า เมื่อถึงเวลาที่ต้องการใช้เงินสด จะสามารถแลกเปลี่ยนทองคำแท่งจำนวนนั้นเป็นเงินสดได้ในทันทีหรือไม่ ถ้าหากต้องการขาย แต่ยังขายไม่ออก หรือราคาสูงกว่าตอนซื้อมา เราจะลำบากหรือไม่

    แหล่งที่ซื้อ

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นการซื้อออนไลน์จากเว็บไซต์อีคอมเมิรซ์ ต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนว่าผู้ขายคนนั้นมีประวัติการขายที่ดีหรือไม่ อย่างไรบ้าง เคยมีชื่อเสียงในทางเสีย ๆ หาย ๆ หรือไม่ ทองที่นำมาขาย มาจากแหล่งใด วางใจได้หรือไม่ หากเป็นการซื้อออนไลน์จากร้าน เราจะพอทราบชื่อเสียงของเขามาบ้าง ก็ต้องพิจารณาองค์ประกอบอื่น ๆ ด้วย เช่นวิธีการขนส่ง ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อเลี่ยงความเสี่ยงจากการรับซื้อทอง (สิ่งของ) จากแหล่งที่มิชอบ อันจะนำปัญหาต่าง ๆ ตามมา

    ช่วงเวลาที่เหมาะสม

    ราคาของทองก็เช่นเดียวกับสินค้าทั่วไปที่แปรผันตามกลไกตลาด หากช่วงใดที่มีคนต้องการมาก ราคาก็จะแพง หากช่วงใดคนต้องการน้อย ราคาก็จะลดลง ในประเทศไทย

    ทองแท้? สอดไส้? ทองผสม?

    หากเป็นทองคำบริสุทธิ์ (Fine Gold) แม่เหล็กจะดูดไม่ติด หากเป็นทองสอดไส้โลหะ แม่เหล็กจะดูดติด ส่วนถ้ามีโลหะชนิดอื่น ๆ เช่นทองแดง สังกะสี และอื่น ๆ ผสมอยู่ด้วย เมื่อสัมผัสกับกรดไนตริกแล้วจะมีการเปลี่ยนแปลง แต่หากเป็นทองแท้ จะไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ และถึงจะบอกว่าเป็นทองแท้ แต่ก็จะเห็นได้ว่ามีค่าความบริสุทธิ์เพียง 96.5% เท่านั้น เนื่องจากอีก 4.5% ที่หายไป คืออัตราของโลหะอื่นที่จำเป็นต้องมาผสมเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของตัวทองนั่นเอง (โดยทั่วไป ทองจะมีความอ่อนนุ่มมาก ๆ ถ้าไม่ผสมเลย จะเสียรูปได้ง่าย)

    ดูที่น้ำหนัก

    ไม่ว่าจะเป็นทองที่มีขนาดเล็กหรือใหญ่ เป็นทองรูปพรรณ ทองคำแท่ง หรือเหรียญกษาปณ์ทอง แต่ถ้าแปะป้ายว่า น้ำหนัก 1 บาทแล้ว จะต้องมีน้ำหนักที่เท่ากันเสมอ

    รอยตำหนิเล็ก ๆ บนพื้นผิว และผิวสัมผัส

    ถ้าเป็นทองแท้ เมื่อถูกกระแทกบนกระจกแล้วจะมีเสียงเหมือนของแข็งที่นุ่ม ๆ หนัก ๆ มากกว่าเป็นเสียงโลหะ (เช่นเหล็ก อลูมิเนียม) นอกจากนี้ ถ้าเป็นทองแท้จะขึ้นรูปด้วยการหล่อในบล็อกและจะต้องมีตราประทับโลโก้ของร้าน พร้อมข้อมูลทองด้วย (Assay Mark) และที่สำคัญจะไม่มีรอยต่อหรือรอยเชื่อมประสาน


    10 อันดับห้างทองในไทย

    ในบทความนี้ ได้รวบรวมตัวอย่างของห้างทองที่มีชื่อเสียงยาวนานในประเทศไทยมาให้พอเป็นแนวทาง ในการเลือกซื้อนั้น โปรดระลึกเสมอว่า ไม่ว่าจะเป็นทองรูปพรรณ (Gold Ornament Set) หรือทองคำแท่ง (Bullion) จะต้องมีน้ำหนักคงที่เสมอ หากไม่เป็นไปตามเณฑ์นั้น ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าอาจมีการสอดไส้ หรือมิใช่ทองแท้

    ห้างทองฮั่วเซ่งเฮง (Hua Seng Heng)

    หนึ่งในห้างทองเก่าแก่ย่านเยวราชที่เมื่อพูดถึงร้านทอง ย่อมต้องนึกถึงห้างทองแห่งนี้ขึ้นมา ปัจจุบัน นอกจากจำหน่ายทองคำแท่งและทองรูปพรรณแล้ว ยังเป็นนายหน้าเทรดทอง และสัญญษการซื้อขายล่วงหน้าของอนุพันธ์ชนิดต่าง ๆ ด้วย

    ห้างทองออโรร่า (Aurora)

    ก่อตั้งโดยชาวไทยเชื้อสายจีน ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2516 ด้วยประสบการณ์การเป็นผู็ทำทองส่งมอบห้างทองย่านเยาวราชมาตั้งแต่ พ.ศ.2500 ปัจจุบันมีสาขามากมายในห้างสรรพสินค้า มีสินค้าทั้งทองรูปพรรณ โลหะมีค่าชนิดต่าง ๆ และมีบริการซื้อ – ขายออนไลน์ เพิ่มความสะดวกแก่ลูกค้า

    ห้างทองแม่ทองสุก (MST Gold)

    จำหน่ายทองคำแท่งบริสุทธิ์ 99.99% จากแหล่งต่าง ๆ ทั่วโลก และได้รับการรับรองจาก LBMA และยังมีแพลตฟอร์มการเทรดทองคำอีกด้วย


    ห้างทองออสสิริส (Ausiris)

    มีหน้าร้าน และระบบออนไลน์ พร้อมโปรแกรมออมทอง ตอบโจทย์คนรรุ่นใหม่และรุ่นเก่าในการเข้าถึงการลงทุนในทอง และโลหะมีค่าชนิดต่าง ๆ

    ห้างทองตั้งโต๊ะกัง เยาวราช (Tang To Kang)

    เป็นห้างทองเก่าแก่หนึ่งใน 5 เสือเยาวราชมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 และได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้ตราครุฑ ณ ห้างทอง ปัจจุบันตั้งอยู่ย่านเยาวราช โดยด้านบนของอาคารเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้บุคคลทั่วไปเข้ามาศึกษาได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

    ห้างทองจินฮั้วเฮง (Chin Hua Heng)

    อีกหนึ่งในผู้มีประสบการณ์ยาวนานในวงการค้าทอง ปัจจุบันมีสินค้าจำพวกวัตถุมงคลเพื่อการสะสมและมอบให้เป็นที่ระลึกในโอกาสพิเศษ เพื่อแสดงถึงวัฒนธรรม ความมั่งคั่งมั่งมีของผู้ครอบครอง เช่น มังกรทองคำ จี้สั่งทำพิเศษ เซ็ตทองแผ่น 12 นักษัตร เป็นต้น และที่สำคัญ จิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี ผู้บริหารใหญ่ของห้างทองนี้ยังมีตำแหน่งนายกสมาคมค้าทองคำในปัจจุบันด้วย

    ห้างทองเลี่ยงเซ่งเฮง

    อีกหนึ่งใน 5 เสือห้างทองเยาวราช ที่มีความเป้นมาเก่าแก่ยาวนาน ปัจจุบันได้ปรับโฉมมาทำการตลาด สื่อสารแบรนด์มายังคนรุ่นใหม่ด้วยรูปลักษณ์ของทองรูปพรรณที่นำสมัย และวิธีการตลาดที่สื่อให้เห็นว่า ทองมิใช่ของล้ำค่าของคนรุ่นปู่ย่าตายายอีกต่อไปเท่านั้น

    วาย แอล จี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล (YLG Bullion International)

    เป็นผู้นำในการนำเข้าทองคำแท่งจากต่างชาติมา เพื่อจัดสรรให้แก่นักลบงทุนรายใหญ่ เป็นโบรกเกอร์เทรดอนุพันธ์ที่รับรองโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

    จี ที โกลด์บูลเลียน (GT Gold Bullion)

    เกิดจากรวมตัวกันของผู้คร่ำหวดในวงการค้าทองคำของประเทศไทย มีฐานะเป็นตลาดกลางการค้า แลกเปลี่ยนทองคำในประเทศไทย ให้บริการเทรดทองคำออนไลน์ทั้งตามมาตรฐานไทยและมาตรฐาน LMBA

    ห้างทองเฮงเซ่งเฮง (Heng Seng Heng)

    เป็นร้านทองที่ฉีกกฎธุรกิจร้านทองในการรับรู้ของคนไทย เพราะหันมาขายออนไลน์ด้วย ด้วยความคิดที่ว่าเหตุใดจึงขายทองอนนไลน์เหมือนอเช่นสินค้าอื่น ๆ ไม่ได้ ปัจจุบันนี้อยู่ในการบริหารดูแลของทายาทร้านทองเฮงเซ่งเฮงเยาวราช

    ซื้อทองคำแท่งดีอย่างไร ทำไมถึงควรลงทุนในทอง

    เหตุผลเดียวที่ควรซื้อสะสมทองคำแท่งมากกว่าการซื้อทองรูปพรรณคือ ทองคำแท่งไม่มีค่ากำเหน็จที่แพง จะมีก็เพียงค่าบล็อกที่ถูกกว่าเท่านั้น และเมื่อต้องการขาย ก็ได้ราคาดีกว่าทองรูปพรรณ นักสะสมสามารถซื้อได้ตั้งแต่ขั้นต่ำ 5 บาททอง และนำทองกลับมาเก็บรักษาไว้กับตัว แต่วิธีการนี้ค่อนข้างจะไม่ปลอดภัย

    ราคาของทองคำ ไม่มีวันเสื่อมลง เพราะเป็นของหายาก แข็งแรง ทนทาน สามารถเอาชนะอัตราเงินเฟ้อได้ในระดับหนึ่ง สามารถนำไปแลกเปลี่ยนได้ทั่วโลก เพราะมีความเป็นสากลในแง่ของสเป็กและน้ำหนัก อย่างไรก็ตาม ต้องดูก่อนซื้อด้วยว่า ทองคำแท่งที่ตนซื้อมานั้นได้รับการรับรองตามเกณฑ์มาตรฐานของสมาคมค้าทองคำลอนดอน (The London Bullion Market Association หรือ LMBA) หรือไม่

    เหตุผลสำคัญอีกประการหนึ่งคือเป็นการกระจายความเสี่ยงของการลงทุน เนื่องจากราคาของทองคำและราคาของตราสาร พันธบัตรรัฐบาลหรือเงินมักจะเป็นไปในทิศทางที่ตรงกันข้าม ดังนั้น หากช่วงไหนมูลค่าของหุ้น (ตัวแทนของตลาดเงิน) ไม่ค่อยดี การนำทองออกมาขายบางส่วนหรือทั้งส่วน (เทขาย) ก็อาจเป็นการสร้างกำไรในระยะนั้นได้

    นอกจากนี้ ยังมีตราสารอนุพันธ์ที่ใช้ทองเป็นสินค้าอ้างอิงหรือนำทองไปอ้างอิงกับดัชนีหุ้น ทำให้การลงทุนในทองยิ่งเป็นสิ่งที่แพร่หลายและเข้าถึงได้ง่าย เนื่องจากมีความสะดวก เพราะสามารถทำผ่านออนไลน์ได้ และมีความปลอดภัย เพราะไม่ต้องถือทองคำจริง ๆ ไว้กับตัว เมื่อถึงเวลาที่ครบกำหนดสัญญา ก็จะได้รับเงิน (หรือขาดทุน) นับเป็นการเพิ่มโอกาสเข้าถึงการลงทุนในทองได้ง่ายขึ้นกว่าสมัยก่อน

    กล่าวโดยสรุป ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนรูปแบบใด การลงทุนในทองนั้นคงความเป็นอมตะนิรันดร์กาล บอกฐานะของผู้ครอบครอง และเอาชนะทุกสภาวะตลาด


    Comments

    • December 7, 8.00
      D. jhon shikon milon

      Is this article helpful to you?

      LikeReply